S Pink Premium - Working In Background

วันจันทร์ที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2555

'ในหลวง' พระราชทานชื่อ 'โรหิสรัตน์' ลูกละมั่งหลอดแก้วตัวแรกของโลก



องค์การสวนสัตว์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประสบความสำเร็จด้านการอนุรักษ์และขยายพันธุ์สัตว์ป่า โดยปฏิสนธิภายนอกร่างกาย หรือผลิตลูกละมั่งหลอดแก้ว เพื่อใช้เป็นต้นแบบละมั่งพันธุ์ไทยได้สำเร็จเป็นตัวแรกของโลก เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว วันที่ 5 ธันวาคม 2554   
 
พล.อ.ภัทรินทร์ ลีลายุทธ รักษาการ ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานชื่อลูกละมั่งหลอดแก้ว หรือละมั่งอุ้มบุญว่า “โรหิสรัตน์” ซึ่งมาจากคำ 2 คำ คือ “โรหิส” แปลว่า ละมั่ง และ “รัตน์” แปลว่า แก้ว “โรหิสรัตน์”  จึงมีความหมายว่า “ละมั่งแก้ว” นำมาซึ่งความปีติยินดีในพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อมแก่องค์การสวนสัตว์ฯ คณะนักวิจัย รวมทั้งผู้ที่เกี่ยวข้อง    
 
ขณะนี้ละมั่งโลหิสรัตน์ อยู่ที่สวนสัตว์เปิดเขาเขียว จังหวัดชลบุรี มีอายุ 7 เดือนเศษ สุขภาพแข็งแรง ปราดเปรียว ชอบวิ่งเล่นไปมา และไม่ชอบเสียงดัง
 
ส่วนความคืบหน้าโครงการขยายพันธุ์ละมั่งพันธุ์ไทย ซึ่งเป็นสัตว์ในตระกูลกวางที่หายากและถือเป็น 1 ใน 15 สัตว์ป่าสงวนของไทยและได้สูญพันธุ์กว่า 50 ปีแล้วนั้น ขณะนี้นักวิจัยกำลังเร่งวิจัยต่อยอดการขยายพันธุ์ด้านเทคนิคหลอดแก้วกับละมั่งพันธุ์ไทย ที่ขณะนี้เหลือเพียงไม่เกิน 40-50 ตัว ในทุกแหล่งเพาะเลี้ยงของไทย คาดว่าภายในปีนี้จะขยายพันธุ์ได้จำนวนมาก ก่อนนำไปปล่อยที่หน่วยพิทักษ์ป่าห้วยสะด่อง เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ จ.กาญจนบุรี เพื่อให้เกิดความสมดุลกับป่า
 
นอกจากนี้ นักวิจัยเตรียมขยายพันธ์ไปยังสัตว์ป่าอื่นๆที่หายากอีก โดยเฉพาะกลุ่มกวางผา เลียงผา กวางป่า รวมทั้งเสือ เช่น แมวป่าหัวแบน แมวลายหินอ่อน เสือไฟ เนื่องจากเป็นสัตว์ที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์อย่างมาก
 
พล.อ.ภัทรินทร์ ยังกล่าวถึงสถานการณ์ละมั่งพันธุ์ไทยในขณะนี้ว่า เหลืออยู่แต่ในสวนสัตว์เท่านั้น ส่วนในธรรมชาติแทบจะไม่มีเหลือแล้ว แม้ว่าองค์การสวนสัตว์ฯ และกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช จะเคยนำละมั่งพันธุ์พม่าไปปล่อยที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งประมาณ 70 ตัว แต่ปัจจุบันตรวจสอบพบว่าเหลือประมาณ 10 กว่าตัวเท่านั้น เนื่องจากส่วนใหญ่มีสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง วิ่งหนีเสือไม่ทัน จึง ตกเป็นอาหารเสือเกือบหมด

ภาพและข่าวจาก ไทยรัฐออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น